วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560


ตราประจำจังหวัด


 

                       พิษณุโลก เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย หรือภาคเหนือตอนล่าง มีประชากรในปี พ.ศ. 2558 จำนวน 863,404 คน มีพื้นที่ 10,815.854 ตารางกิโลเมตร มีเทศบาลนครพิษณุโลกเป็นเมืองศูนย์กลางของจังหวัดและเป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด เป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยขอม โดยมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันในศิลาจารึก ตำนาน นิทาน และพงศาวดาร เช่น สองแคว, สองแควทวิสาขะ และไทยวนที
                      เดิมเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองเก่าสมัยขอม อยู่ห่างจากที่ตั้งเมืองปัจจุบันลงไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เรียกว่า "เมืองสองแคว" ที่เรียกเช่นนี้ เพราะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำน่าน กับแม่น้ำแควน้อย แต่ปัจจุบันแม่น้ำแควน้อยเปลี่ยนทางเดินออกห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร
            ที่ตั้งตัวเมืองเก่าในปัจจุบันคือ บริเวณวัดจุฬามณี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของพิษณุโลก แต่เมื่อประมาณพุทธศักราช 1900 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ได้โปรด ให้ย้ายเมืองสองแคว มาตั้งอยู่ ณ บริเวณตัวเมืองในปัจจุบัน และยังคงเรียกกันติดปากว่า เมืองสองแคว เรื่อยมา

    


คำขวัญประจำจังหวัด

   พระพุทธชินราชงามเลิศ ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา





ของดีประจำจังหวัด


ไก่เหลืองหางขาว

   ความเป็นมา ไก่ชนพระนเรศวรมหาราช เป็นไก่ชนตามประวัติศาสตร์ซึ่งปรากฏอยู่ในพงศาวดาร เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพำนักอยู่ในกรุงหงสาวดี ประเทศพม่า พระองค์ทรงนำไก่เหลืองหางขาวไปจากเมืองพิษณุโลก เพื่อนำไปชนกับไก่ของพระมหาอุปราชา เป็นไก่ชนที่มีลักษณะพิเศษมีความเฉลียวฉลาดในการต่อสู้ ไก่ชนพระนเรศวรมหาราชจึงชนชนะ จนได้รับสมญาว่า "เหลืองหางขาว ไก่เจ้าเลี้ยง" ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก ได้ศึกษาค้นคว้า และทำการส่งเสริมเผยแพร่ โดยจัดประกวดครั้งแรกขึ้นเมื่อ 29 กรกฎาคม 2533 และในปี 2534 ได้จัดตั้ง ชมรมอนุรักษ์ไก่ชนพระนเรศวรมหาราชขึ้นที่ ตำบลหัวรออำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกจนถึงปี 2542 ได้จัด ตั้งกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์ไก่ชนพระนเรศวรมหาราชขึ้นทุกอำเภอ รวม 12 กลุ่มเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาสายพันธุ์ให้คงอยู่ เป็นสมบัติคู่ชาติตลอดไป

สุนัขพันธุ์บางแก้ว

 สุนัขไทยพันธุ์เดียวในประเทศไทยที่มีขนยาวสองชั้นหางเป็นพวง มีขน ขาหน้าคล้ายขนขาแข้งสิงห์   แผงรอบคอคล้ายสิงโตมีความเฉลียว ฉลาด ไอคิวสูง ประวัติความเป็นมา ของ สุนัขไทยพันธุ์ บางแก้ว จากข้อมูล ที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้วต.บางแก้ว บ้านชุมแสสงคราม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็น ป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่าเป็นโขลง ๆ หมู่ป่า ไก่ป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาไน


กล้วยตาก

  กล้วยตาก ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้สุก เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยในเขตพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำและหัวเมืองหน้าด่านต่างๆ สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย เมื่อครั้งบรรพบุรุษไทยต้องทำศึกสงคราม เพื่อรักษาสภาพอาณาเขตการปกครองบ้านเมือง มีการสร้างบ้านเรือน ปลูกข้าว ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ มีผลไม้ – เนื้อสัตว์ต่างๆ หลากหลายชนิด เมื่อรับประทานไม่หมดทำให้เน่าเสีย เช่น มะม่วงสุก มะขามเปรี้ยว ปลาสด เนื้อสด เป็นต้น.ในสมัยโบราณ การถนอมอาหารที่สะดวกและสามารถทำได้ทุกครัวเรือนคือ การตากแห้ง เช่น ส้มแผ่น มะขามเปียก ปลาแห้ง เนื้อแห้ง ฯลฯ เพื่อรับประทานในยามขาดแคลน จากการปิดล้อมของข้าศึก, ผู้รุกราน หรือจากสภาพธรรมชาติ เช่น ฤดูน้ำหลาก นอกจากการถนอมอาหารใช้รับประทานเองในครัวเรือนแล้ว จากข้อสันนิษฐานดังกล่าว เชื่อได้ว่าภูมิปัญญาการทำกล้วยตาก เกิดขึ้นพร้อมกับสภาพความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทย
ในปี พ.ศ. 2470 หรือเมื่อประมาณ 85 ปีที่ผ่านมา จากหลักฐานการก่อตั้งอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก และจากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น, การแปรรูปกล้วยตากในสมัยโบราณไม่ได้เน้นในเชิงพาณิชย์ โดยเริ่มมีหลักฐานบันทึกว่ามีการนำกล้วยตากในท้องถิ่นอำเภอบางกระทุ่มไปจำหน่ายยังต่างจังหวัด มีการผลิตกล้วยตากเป็นอาชีพที่บ้านเกาะคู บ้านบางกระน้อย และชุมชนอื่นๆ ในเขต อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก โดยการนำภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในสมัยโบราณมาต่อยอด เช่น การเลือกใช้วัตถุดิบจากเดิมใช้กล้วยน้ำว้าทั่วไป มาเป็นการใช้กล้วยน้ำว้าสายพันธุ์ “มะลิอ่อง” หรือการบ่มกล้วยให้สุกแทนการนำกล้วยน้ำว้าสุกทั่วไปมาผลิต เป็นต้น.



ต้นไม้ประจำจังหวัด


 ชื่อต้นไม้ : ปีป , กาสะลอง
   วงศ์ : Bignoniaceae
   ชื่อสามัญ : Indian Cork Tree
   ชื่อวิทยาศาสตร์ : Millingtonia hortensis.,Linn.ff.
   ถิ่นกำเนิด : เอเซียเขตร้อน
       ไม้ต้นนี้ดอกหอมมาก  เป็นต้นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงทะมึนได้ถึง 25 เมตร ชอบอากาศชุ่มชื้นแต่มีความทนอากาศแห้งแล้งได้ดีปลูกง่ายโตเร็ว แต่รากปีบไม่หยั่งลึกลงไปในดินเหมือนต้นไม้ใหญ่อื่นๆ  รากไปตามผิวดิน และจะแตกต้นใหม่ขึ้นสามารถสกัดรากไปปลูกใหม่ได้  ใครปลูกปีปไว้ใกล้บ้านอย่าปล่อยให้สูงตระหง่านนักเพราะจะทานแรงลมพายุไม่ไหว ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งบ่อยๆและจะทำให้ทรงต้นสวยด้วย 


ดอกไม้ประจำจังหวัด




     ชื่อดอกไม้  ดอกนนทรี 
     ชื่อสามัญ   Yellow Flamboyant 
     ชื่อวิทยาศาสตร์ Peltophorum pterocarpum (DC.) K. Heyne 
     วงศ์ LEGUMINOSAE 
     ชื่ออื่น  กระถินป่า กระถินแดง (ตราด), นนทรี (ทั่วไป) สารเงิน (แม่ฮ่องสอน) 
     ลักษณะทั่วไป    เป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มสูงได้ถึง 25 เมตร กึ่งผลัดใบ เรือนยอดรูปร่ม แผ่กว้าง ใบเป็นใบประกอบขนนกสองชั้นรูปไข่ ออกดอกเป็นช่อตั้งขนาดใหญ่ที่ปลายกิ่ง สีเหลืองมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกในฤดูแล้ง ช่วง เดือนมีนาคม-มิถุนายน 
     ขยายพันธุ์        โดยการเพาะเมล็ด 
     สภาพที่เหมาะสม  ดินทั่วไป ชอบแสงแดดจัด 

     ถิ่นกำเนิด            เอเชียเขตร้อน

 อำเภอในจังหวัดพิษณุโลก



          1. อำเภอเมืองพิษณุโลก
          2. อำเภอวังทอง
          3. อำเภอชาติตระการ
          4. อำเภอเนินมะปราง
          5. อำเภอบางกระทุ่ม
          6. อำเภอบางระกำ
          7. อำเภอวัดโบสถ์
          8. อำเภอนครไทย
          9. อำเภอพรหมพิราม